เปิดเบื้องหลังการออกแบบ 5 รุ่น กระเป๋า Louis Vuitton

เปิดเบื้องหลังการออกแบบ 5 รุ่น กระเป๋า Louis Vuitton ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กระเป๋าจากแบรนด์ Louis Vuitton เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูงมาเป็นเวลากว่า 165 ปี ที่แบรนด์ยังคงยืนหยัดอยู่บนเส้นทางของโลกแฟชั่น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระเป๋าหลากหลายดีไซน์ได้ถูกผลิตออกมา แต่บางรุ่นผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป ตามความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์แฟชั่นในขณะนั้น

แต่ทว่า กระเป๋าในไลน์คลาสสิก ที่ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปนานเท่าไหร่ ยังคงอยู่ในไลน์การผลิต และยังเป็นที่ต้องการอย่างสูงมาทุกยุคทุกสมัย เบื้องหลังและแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าเหล่านั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร SF Brandname จะมาเปิดเผยให้ทราบกันในบทความนี้ กับกระเป๋าทั้ง 5 รุ่นยอดนิยมจาก Louis Vuitton จะมีรุ่นใดบ้างนั้น ติดตามได้พร้อมกัน

กระเป๋า Louis Vuitton Speedy : 1930

จากกระแสความนิยมและประสบความสำเร็จของกระเป๋ารุ่น Keepall ซึ่งถือกำเนิดในช่วงที่การท่องเที่ยว มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต จนได้สมญานามว่า  “The Tient-Tout (ใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น)” ในปี ค.ศ. 1930 ได้ถือกำเนิดกระเป๋าที่มีรูปแบบใกล้เคียงกัน ในขนาดที่เล็กกระทัดรัดกว่า เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้า ภายใต้ชื่อ “Express”

“Express” ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกด้วยขนาดกระเป๋า 30 เซนติเมตร (ตัวเลขที่ปรากฏด้านหลังชื่อรุ่นมีความหมายถึงขนาดความกว้างทางแผงด้านหน้าของกระเป๋า โดยมีหน่วยเป็นเซนติเมตร) ในขณะนั้นกระเป๋าถูกนำจำหน่ายในรูปแบบของผ้าใบเรียบ ไม่มีลวดลาย และมีเพียง 3 ขนาด คือ ขนาด 30, 35 และ 40 ในปีต่อมา จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “Speedy” ภายใต้ ผืนผ้าใบ Monogram Canvas เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว และค่านิยมของการเดินทางในสมัยนั้น

Speedy ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความก้าวหน้าในการขนส่งสาธารณะในปี 1930 การออกแบบที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และง่ายต่อการพกพา ในขณะที่รูปทรงที่ไม่เหมือนใคร หูหิ้วหนังแบบม้วน และแม่กุญแจสลักสัญลักษณ์ของแบรนด์ บ่งบอกถึงความหรูหราที่แฝงอยู่ใน Fashion House อันทรงเกียรติแห่งกาลเวลา

Louis Vuitton Speedy ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 22,900 บาท

Louis Vuitton Speedy ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 22,900 บาท

 

กระเป๋า Louis Vuitton Noe : 1932

เดิมที กระเป๋ารุ่น Noé ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นกระเป๋าสำหรับผู้ชาย ออกแบบโดย Gaston Louis Vuitton เมื่อปี ค.ศ. 1932 จากออเดอร์พิเศษที่ได้รับจากผู้ผลิตแชมเปญรายใหญ่ ให้ช่วยออกแบบกระเป๋าสำหรับบรรจุขวดไวน์และแชมเปญ เพื่อใช้เป็นของขวัญสำหรับลูกค้าคนสำคัญ โดยมีเงื่อนไขในการออกแบบด้วยกันทั้งหมด 3 ข้อคือ ตัวกระเป๋าจะต้องมีน้ำหนักเบา และยืดหยุ่นสำหรับขวดแชมเปญ มีความหรูหราสมกับไวน์ของเขา ข้อสุดท้ายคือต้องมีพื้นที่มากพอสำหรับใส่ขวดแชมเปญทั้งหมดเป็นจำนวน 5 ขวด

ชื่อ Noé มีที่มาจากตำนานเกี่ยวกับเรือโนอาร์ (Noah’s Ark) ซึ่งถูกกล่าวถึงในพระธรรมปฐมกาลบทที่ 6 พระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ ว่าด้วยเรื่องก่อนที่พระเจ้าจะทรงทำลายมนุษย์ด้วยการบันดาลให้เกิดเหตุอุทกภัย หรือเหตุการณ์น้ำท่วมโลก โนอาร์คือบุคคลที่พระเจ้าทรงเห็นว่าเป็นคนชอบธรรม จึงรับสั่งให้ทำการต่อเรือ และทำการขนย้ายครอบครัว รวมทั้งสัตว์น้อยใหญ่จำนวนหนึ่ง เพื่อให้รอดพ้นกับอุทกภัยใหญ่ในครั้งนี้ หลังจากโนอาห์รอดชีวิตจากน้ำท่วมด้วยเรือไม้ เขาก็กลายเป็นผู้ผลิตไวน์

Louis Vuitton Noé ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 69,900 บาท

Louis Vuitton Noé ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 69,900 บาท

 

กระเป๋า Louis Vuitton Alma : 1934

กระเป๋า Louis Vuitton Alma ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1934 โดยเริ่มแรก ออกจำหน่ายโดยใช้ชื่อเรียกว่า “Squire Bag” ก่อนที่จะได้รับการปรับปรุงโฉมอีกครั้งในปี ค.ศ. 1950 รวมถึงมีการเปลี่ยนชื่อรุ่นอีกครั้งหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า “Champs-Elysées” จนถึงเมื่อครั้งปี ค.ศ. 1992 ได้มีการเปลี่ยนชื่อกระเป๋ารุ่นนี้อีกครั้งเป็น “Alma” อย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบัน กล่าวกันว่า Alma เป็นตัวแทนของชีวิตในเมืองที่เร่งรีบและวุ่นวาย แต่ก็ยังสามารถหยุดชื่นชมกับสิ่งสวยงามรอบข้างในขณะเดียวกัน

ชื่อ Alma ได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในมหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส นั่นคือสะพาน Pont de l’Alma   รวมถึงแรงบันดาลใจจากศิลปะการเคลื่อนไหวแบบ Art Deco กล่าวกันว่า Alma ได้พื้นฐานการออกแบบมาจากการสั่งทำกระเป๋าแบบพิเศษ โดยเจ้าแม่วงการแฟชั่นอย่าง Coco Chanel

Louis Vuitton Alma ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 35,000 บาท

Louis Vuitton Alma ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 35,000 บาท

 

กระเป๋า Louis Vuitton Neverfull

เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 2007 ในฐานะกระเป๋าทรง Tote ภายใต้คอนเซ๊ปต์ "ไม่มีวันเต็ม" ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น Neverfull กระเป๋าทุกใบ จะได้รับการทดสอบการรับน้ำหนัก และความคงทนของสายสะพายก่อนออกจำหน่าย โดยมีบันทึกว่า กระเป๋าขนาด GM หรือ ขนาดใหญ่ที่สุดนั้น สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 231 ปอนด์ หรือ ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยกระเป๋าแต่ละใบ จะใช้เวลาในการตัดเย็บนานถึง 45 ชั่วโมง

ด้านนอกของกระเป๋า ตัดเย็บจากวัสดุผ้าใบ Canvas คุณภาพสูง ด้านในบุด้วยผ้าชั้นดี ซึ่งเราสามารถแบ่ง Neverfull ออกได้เป็น 2 รุ่นคือ รุ่นที่ผลิตในช่วงปี ค.ศ. 2007-2014 และรุ่นที่ผลิตในปี ค.ศ. 2014-ปัจจุบัน ซึ่งในรุ่นปี 2014 จะมาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็ก (Pouch) โดยทั้ง 2 รุ่นมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย แต่พ่วงด้วยประโยชน์ใช้สอยที่เต็มเปี่ยม จึงกลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่เป็นที่ใฝ่ฝันของคุณผู้หญิงไปโดยปริยาย

กระเป๋า Louis Vuitton Neverfull ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 39,900 บาท

Louis Vuitton Neverfull ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 39,900 บาท

 

กระเป๋า Louis Vuitton Capucine : 2013

กระเป๋า Capucine ของ Louis Vuitton เปิดตัวในคอลเลกชั่น Fall/Winter 2013 และมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ Mini, BB และ PM ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยชื่อรุ่น Capucine มีที่มาจากถนน Rue Des Capucines ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส อันเป็นสถานที่ตั้งร้านบูทีคแห่งแรกของ Louis Vuitton ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อปี ค.ศ. 1854

กระเป๋าถูกออกแบบมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ตัดเย็บจากหนัง Taurillon full-grain สายสะพายไหล่แบบถอดได้และช่องใส่ของด้านใน 2 ช่อง ฝากระเป๋าด้านหน้า สามารถนำมาปิดได้ทั้งด้านนอกหรือเก็บไว้ด้านใน เพื่อเผยให้เห็นสัญลักษณ์ LV ขนากใหญ่ตรงกลางกระเป๋า ยกระดับความหรูหราของแบรนด์ด้วยความสง่างามตามแบบฉบับฝรั่งเศส ปัจจุบัน มีจำหน่ายในหลากหลายวัสดุ สีสัน และลวดลาย

กระเป๋า Louis Vuitton Capucine ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 119,900 บาท

ทั้งหมดนี้คือ เปิดเบื้องหลังการออกแบบกระเป๋า 5 รุ่นจาก Louis Vuitton ที่ SF Brandname ได้รวบรวมมานำเสนอ เรื่องราวและประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งลึกลับ พิศมัย ชวนให้น่าค้นหา และถือว่าเป็นเสน่ห์ช่วยเสริมสร้าง แต่งเติมมูลค่าของสินค้านั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับกระเป๋า Louis Vuitton รุ่นอื่น ๆ ทาง SF Brandname มีทีมงานคุณภาพที่พร้อมให้บริการคุณ ด้วยบริการเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายแลกเปลี่ยน จำนำ งานซ่อมงานเย็บและงานสปาต่าง ๆ ด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญ

สินค้าจาก SF Brandname มั่นใจได้ถึงคุณภาพและความเป็นของแท้ 100% ด้วบใบการันตีคุณภาพ หากท่านสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

  • Facebook : sfbrandname
  • Line : @sfbrandnamebkk
  • Instragram : sfbrandname
  • Tel : 02-821-6444